
กล้อง LC-A เป็นกล้องออโตเมติกขนาดเล็ก ที่ให้ความเชื่อใจได้ หลายๆคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์กับกล้องนี้ อาจจะต้องศึกษาลึกลงไปอีกสักนิด และจะได้พบกับคุณสมบัตืเฉพาะตัวที่เหลือเชื่อ ด้วย len "Minitar 1" ที่ถูกออกแบบโดย ศาสตราจารย์ ราดิโอนอฟ ให้มีคุณสมบัติ สร้างสีสรรบน film ให้สดใส และเก็บภาพมุมกว้าง, ระบบคำนวณแสงออโตเมติก ซึ่งในขณะนั้น มีเพียงในเฉพาะกล้องราคาแพงเท่านั้น ทำให้ LC-A สามารถใช้งานได้ในสภาพแสงหรือสถานการณ์ทุกรูปแบบ และด้วยขนาดกระทัดรัด ทำให้สามารถพกติดตัวไปด้วยได้ ตลอดเวลา นอกเหนือจากนั้น ในส่วนของการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอก และวัสดุที่ใช้ในการผลิตก็ทำให้ LC-A เป็นกล้องที่มีความแตกต่าง และดูพิเศษมากกว่ากล้องทั่วไปจนกระทั่งปัจจุบัน.
ปรากฎการครั้งสำคัญของ Lomography ได้เกิดขึ้นที่เมืองปรากปี 1991
ในขณะนั้น Lomo LC-A ได้กลายเป็นของเก่าเก็บในร้านขายของเก่าไปเรียบร้อยแล้ว สายการผลิตไม่มีอีกต่อไป คงเหลือตามจำนวนที่ค้างอยู่ใน stock แต่มีนักศึกษาชาว เวียนนา 2 คน ได้ไปพบกล้อง LC-A ที่ร้านของเก่า แล้วซื้อมาเพืยงถ่ายเพื่อความสนุก พวกเขาได้ลองใช้กล้องนี้ถ่ายในรูปแบบต่างๆ ทุกมุมมองที่พวกเขาถ่ายแทบจะเรียกได้ว่า สถานที่แห่งนั้น (สาธารณรัฐ เชก) ได้ถูกเก็บไว้ในกล้องเล็กๆตัวนี้หมดแล้ว นักศึกษาทั้งสองคนเดินทางกลับมาเมืองเวียนนา แล้วนำ film ที่ถ่ายจากกล้องนี้ไปล้าง พวกเขาประหลาดใจกับสิ่งที่ได้พบ รูปทั้งหมด ได้แสดงอารมณ์ สถานการณ์ ลักษณะภาพในแบบต่างๆ ออกมาได้เป็นที่น่าประทับใจ
พวกเขาทั้งสองไม่เคยเห็นหรือ สัมพัสภาพแบบนี้จากกล้องตัวไหนมาก่อน ผลลัพธ์จากกล้องตัวเล็กๆ นี้ มันยิ่งใหญ่มากๆสำหรับพวกเขา และทำให้พวกเขานึกไปถึงนำ Lomo LC-A และ การถ่ายแบบ Lomograph ออกมาเผยแพร่ จนในที่สุดปัจจุบันนี้ กล้อง Lomo LC-A ถูกผลิตใหม่อีกครั้ง และ ความสำคัญของ Lomographic Society ก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นทุกวัน

ปรากฎการครั้งสำคัญของ Lomography ได้เกิดขึ้นที่เมืองปรากปี 1991
ในขณะนั้น Lomo LC-A ได้กลายเป็นของเก่าเก็บในร้านขายของเก่าไปเรียบร้อยแล้ว สายการผลิตไม่มีอีกต่อไป คงเหลือตามจำนวนที่ค้างอยู่ใน stock แต่มีนักศึกษาชาว เวียนนา 2 คน ได้ไปพบกล้อง LC-A ที่ร้านของเก่า แล้วซื้อมาเพืยงถ่ายเพื่อความสนุก พวกเขาได้ลองใช้กล้องนี้ถ่ายในรูปแบบต่างๆ ทุกมุมมองที่พวกเขาถ่ายแทบจะเรียกได้ว่า สถานที่แห่งนั้น (สาธารณรัฐ เชก) ได้ถูกเก็บไว้ในกล้องเล็กๆตัวนี้หมดแล้ว นักศึกษาทั้งสองคนเดินทางกลับมาเมืองเวียนนา แล้วนำ film ที่ถ่ายจากกล้องนี้ไปล้าง พวกเขาประหลาดใจกับสิ่งที่ได้พบ รูปทั้งหมด ได้แสดงอารมณ์ สถานการณ์ ลักษณะภาพในแบบต่างๆ ออกมาได้เป็นที่น่าประทับใจ
พวกเขาทั้งสองไม่เคยเห็นหรือ สัมพัสภาพแบบนี้จากกล้องตัวไหนมาก่อน ผลลัพธ์จากกล้องตัวเล็กๆ นี้ มันยิ่งใหญ่มากๆสำหรับพวกเขา และทำให้พวกเขานึกไปถึงนำ Lomo LC-A และ การถ่ายแบบ Lomograph ออกมาเผยแพร่ จนในที่สุดปัจจุบันนี้ กล้อง Lomo LC-A ถูกผลิตใหม่อีกครั้ง และ ความสำคัญของ Lomographic Society ก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นทุกวัน
"sangham saranam gacchami"...for you!
ตอบลบแล้วคนถ่ายภาพไม่เป็นอย่างเรา
ตอบลบถ้าใช้กล้องนี้ ภาพที่ออกมามันจะสวยมั้ยอ่ะ
ราคาคงแพงน่าดูเลย
((49112145))
กล้องมันแถม CCD ในกล่องมั้ยอ่ะ อิอิ
ตอบลบ49111666
น่าสนใจ เรื่องกล้อง
ตอบลบต้องศึกษามีกล้องอยู่ก็เล่นแค่ Auto mode
ฮ๋าๆๆๆๆ เอิ๊กๆๆๆจะมีไฮไปทำไมได้อีก เง้อออ
49111781 ศราวุธ
น่าสนจัย เเฮ่ะๆๆๆ
ตอบลบเคยเป่งเเต่นางเเบบ^เเบบว่าโดนถ่ายประจำ
ก้อเรยม่ายค่อยรุ้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่
อ่ะน่าสน น่าสน^^^^^อิอิ
/////49112135//////