วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

มาทำความรู้จักกับกล้อง LOMO


นายพล อีกอร์ เปรโตรวิช คอร์นิสกี้, มือขวาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและอุตสาหกรรมของ รัสเซีย ได้นำเอากล้องญี่ปุ่นตัวหนึ่งชื่อว่า Cosina CX-1,CX-2 มาให้กับสหายในพรรคคอมมิวนิสต์ ชื่อว่า นาย มิเชล พาฟิโลวิช พาฟิลอฟ นาย พาฟิลอฟ ซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่ของโรงงาน lomo ที่ผลิต len และ อาวุธของรัสเซีย ทำการตรวจสอบกล้อง cosina นี้อย่างละเอียด แล้วพบว่า มันประกอบไปด้วย len ที่ไวแสงและคมชัด กับบอดี้ที่ทนทานแข็งแรง เขาทั้งสองท่านนี้ได้เห็นประโยชน์และความสำคัญของกล้องเล็กๆ ประเภทนี้ จึงได้สั่งให้ก๊อปปี้และพัฒนาในเรื่องของ design และผลิตออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อความพึงพอใจ ของความรุ่งโรจน์ทางคอมมิวนิสต์ในขณะนั้น มันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ชาวคอมมิวนิสต์ทุกคนมีติดตัวไว้ เพื่อเป็นเครื่องมือบันทึกเหตุการณ์ชีวิตชาวรัสเซีย และบ้านเมืองที่เกิดขึ้นในระยะเวลานั้น นั้นคือต้นกำเนิดของ LOMO LC-A จากนั้นมันก็ได้ถูกผลิตออกมามามาย และจำหน่ายให้แกสมาชิกคอมมิวนิสต์ทุกคน ทั้งในรัสเซีย และที่อื่นๆ เช่น เวียดนาม,คิวบา, เยอรมันตะวันตก ฯลฯ ช่วงปี 1980 เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของ LOMO LC-A
กล้อง LC-A เป็นกล้องออโตเมติกขนาดเล็ก ที่ให้ความเชื่อใจได้ หลายๆคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์กับกล้องนี้ อาจจะต้องศึกษาลึกลงไปอีกสักนิด และจะได้พบกับคุณสมบัตืเฉพาะตัวที่เหลือเชื่อ ด้วย len "Minitar 1" ที่ถูกออกแบบโดย ศาสตราจารย์ ราดิโอนอฟ ให้มีคุณสมบัติ สร้างสีสรรบน film ให้สดใส และเก็บภาพมุมกว้าง, ระบบคำนวณแสงออโตเมติก ซึ่งในขณะนั้น มีเพียงในเฉพาะกล้องราคาแพงเท่านั้น ทำให้ LC-A สามารถใช้งานได้ในสภาพแสงหรือสถานการณ์ทุกรูปแบบ และด้วยขนาดกระทัดรัด ทำให้สามารถพกติดตัวไปด้วยได้ ตลอดเวลา นอกเหนือจากนั้น ในส่วนของการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอก และวัสดุที่ใช้ในการผลิตก็ทำให้ LC-A เป็นกล้องที่มีความแตกต่าง และดูพิเศษมากกว่ากล้องทั่วไปจนกระทั่งปัจจุบัน.
ปรากฎการครั้งสำคัญของ Lomography ได้เกิดขึ้นที่เมืองปรากปี 1991
ในขณะนั้น Lomo LC-A ได้กลายเป็นของเก่าเก็บในร้านขายของเก่าไปเรียบร้อยแล้ว สายการผลิตไม่มีอีกต่อไป คงเหลือตามจำนวนที่ค้างอยู่ใน stock แต่มีนักศึกษาชาว เวียนนา 2 คน ได้ไปพบกล้อง LC-A ที่ร้านของเก่า แล้วซื้อมาเพืยงถ่ายเพื่อความสนุก พวกเขาได้ลองใช้กล้องนี้ถ่ายในรูปแบบต่างๆ ทุกมุมมองที่พวกเขาถ่ายแทบจะเรียกได้ว่า สถานที่แห่งนั้น (สาธารณรัฐ เชก) ได้ถูกเก็บไว้ในกล้องเล็กๆตัวนี้หมดแล้ว นักศึกษาทั้งสองคนเดินทางกลับมาเมืองเวียนนา แล้วนำ film ที่ถ่ายจากกล้องนี้ไปล้าง พวกเขาประหลาดใจกับสิ่งที่ได้พบ รูปทั้งหมด ได้แสดงอารมณ์ สถานการณ์ ลักษณะภาพในแบบต่างๆ ออกมาได้เป็นที่น่าประทับใจ
พวกเขาทั้งสองไม่เคยเห็นหรือ สัมพัสภาพแบบนี้จากกล้องตัวไหนมาก่อน ผลลัพธ์จากกล้องตัวเล็กๆ นี้ มันยิ่งใหญ่มากๆสำหรับพวกเขา และทำให้พวกเขานึกไปถึงนำ Lomo LC-A และ การถ่ายแบบ Lomograph ออกมาเผยแพร่ จนในที่สุดปัจจุบันนี้ กล้อง Lomo LC-A ถูกผลิตใหม่อีกครั้ง และ ความสำคัญของ Lomographic Society ก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นทุกวัน

ที่มาของข้อมูลhttp://www.wara.com/modules.php?name=News&file=article&sid=626

5 ความคิดเห็น:

  1. แล้วคนถ่ายภาพไม่เป็นอย่างเรา

    ถ้าใช้กล้องนี้ ภาพที่ออกมามันจะสวยมั้ยอ่ะ

    ราคาคงแพงน่าดูเลย



    ((49112145))

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ3 กรกฎาคม 2552 เวลา 08:52

    กล้องมันแถม CCD ในกล่องมั้ยอ่ะ อิอิ




    49111666

    ตอบลบ
  3. น่าสนใจ เรื่องกล้อง

    ต้องศึกษามีกล้องอยู่ก็เล่นแค่ Auto mode

    ฮ๋าๆๆๆๆ เอิ๊กๆๆๆจะมีไฮไปทำไมได้อีก เง้อออ


    49111781 ศราวุธ

    ตอบลบ
  4. น่าสนจัย เเฮ่ะๆๆๆ

    เคยเป่งเเต่นางเเบบ^เเบบว่าโดนถ่ายประจำ

    ก้อเรยม่ายค่อยรุ้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่

    อ่ะน่าสน น่าสน^^^^^อิอิ

    /////49112135//////

    ตอบลบ